ฮอนด้าคว้าอันดับ 1 ยอดขายกลุ่ม xEV ในตลาดรถยนต์ประเทศไทยปี 2565 พิสูจน์ความเชื่อมั่นในยนตรกรรมฟูลไฮบริด e:HEV ด้วยสมรรถนะทรงพลัง ประหยัดน้ำมันดีเยี่ยม อุ่นใจด้วยศูนย์บริการที่ครอบคลุมทั่วประเทศ

27 มกราคม 2566

News Image
News Image
News Image
News Image
News Image
News Image
/
บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ครองอันดับ 1 ยอดขายกลุ่มยานยนต์ไฟฟ้า (xEV) ในตลาดรถยนต์ประเทศไทย (มกราคม - ธันวาคม 2565) ด้วยยอดขายสะสมรวม 26,660 คัน* ครองส่วนแบ่งทางการตลาดในกลุ่ม xEV 30%* พิสูจน์ความเชื่อมั่นของยนตรกรรมฟูลไฮบริด e:HEV ของฮอนด้า ที่มอบสมรรถนะอันทรงพลัง และอัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม มาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ครอบคลุม 4 เซกเมนต์หลัก ทั้งในกลุ่มซิตี้คาร์ ได้แก่ ซิตี้ อี:เอชอีวี และ ซิตี้ แฮทช์แบ็ก อี:เอชอีวี กลุ่มคอมแพคท์คาร์ ได้แก่ ซีวิค อี:เอชอีวี ใหม่ กลุ่มเอสยูวี ได้แก่ เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี และกลุ่ม D-segment ได้แก่ แอคคอร์ด อี:เอชอีวี มั่นใจด้วยการรับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริดถึง 10 ปี และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง** และบริการหลังการขายด้วยทีมงานที่เชี่ยวชาญและมากประสบการณ์ (e:HEV Expert) จากเครือข่ายศูนย์บริการฮอนด้าที่ได้มาตรฐานและครบวงจรครอบคลุมทั่วประเทศ
News Image

นายโนริยุกิ ทาคาคุระ

ประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด

ฮอนด้าเดินหน้านำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ที่มาพร้อมเทคโนโลยีอันล้ำสมัยเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ามาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดกับการนำเสนอ e:HEV ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับการ  ขับขี่ในปัจจุบัน ที่ให้ทั้งสมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลัง มีอัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม และยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทำให้ลูกค้ามั่นใจ อีกทั้งยังเข้าถึงได้ง่าย โดยมีให้เลือกหลายประเภททั้งรถซีดานและรถอเนกประสงค์ในหลากหลายเซกเมนต์ ฮอนด้าต้องขอขอบคุณลูกค้าที่ไว้วางใจในรถยนต์ฟูลไฮบริด e:HEV ของเรา ทำให้สามารถครองอันดับ 1 ยอดขายกลุ่ม xEV ในตลาดรถยนต์ประเทศไทย ด้วยยอดขาย 26,660 คัน สะท้อนความเชื่อมั่นในแบรนด์และยนตรกรรมฟูลไฮบริด e:HEV ของฮอนด้า ซึ่งมีบทบาทสำคัญที่จะนำไปสู่สังคมปลอดมลพิษ โดยมาพร้อมกับเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING  ซึ่งเป็นระบบที่ช่วยป้องกันและลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน เพื่อสร้างสังคมปลอดอุบัติเหตุ ตามเป้าหมายฮอนด้าปี พ.ศ. 2593 โดยในปี 2566 เราจะยังคงเดินหน้านำเสนอยนตรกรรมที่ลูกค้าต้องการอย่างต่อเนื่องครอบคลุมหลากหลายพลังงานทางเลือก

News Image
News Image
News Image
News Image
News Image
/
จากความสำเร็จด้านยอดขายและเสียงตอบรับจากลูกค้าชาวไทย พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเทคโนโลยีไฮบริดนับเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่เหมาะสมกับการใช้งานจริงในปัจจุบัน และเป็นเทคโนโลยีที่จะเชื่อมต่อไปสู่การขับเคลื่อนแห่งอนาคต ซึ่งระบบขับเคลื่อนแบบฟูลไฮบริด e:HEV ของฮอนด้าสามารถตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างลงตัว เพราะนอกจากจะให้สมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลัง มีอัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วยอัตราการปล่อยมลพิษที่ต่ำ ยังมั่นใจและสะดวกสบายจากการบริการหลังการขายจากเครือข่ายศูนย์บริการฮอนด้าที่ได้มาตรฐานและครบวงจรที่ครอบคลุมทั่วประเทศ พร้อมการบริการจากทีมงานที่เชี่ยวชาญและมากประสบการณ์
News Image
ขอเชิญชวนลูกค้าพิสูจน์สมรรถนะการขับขี่และอัตราการประหยัดน้ำมันของรถยนต์ฟูลไฮบริด e:HEV ที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศกับแคมเปญทดลองขับ “Happy Day Happy Drive” โดยลูกค้าที่ลงทะเบียนและร่วมกิจกรรมทดลองขับทาง www.honda.co.th/testdrive ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2565 – 31 มีนาคม 2566 จะได้รับฟรีบัตรของขวัญโลตัสมูลค่า 200 บาท** หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถยนต์ฮอนด้ารุ่นต่าง ๆ ได้ที่ศูนย์บริการข้อมูลฮอนด้า 24 ชั่วโมง โทร 0 2341 7777 หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติมหรือแชทกับที่ปรึกษาการขายทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ www.honda.co.th

หมายเหตุ
*ยอดขายสะสมและส่วนแบ่งทางการตลาดนับรวมกลุ่มรถยนต์อเนกประสงค์ ประมาณการณ์โดยรวมการคาดการณ์ยอดขายของรถยนต์บางค่าย
**เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกับที่ปรึกษาการขายโชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ

ข่าวอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

News Image

ฮอนด้า คว้า 4 รางวัลรถยอดเยี่ยมแห่งปี Car of the Year 2025 นำโดยไลน์อัป Full Hybrid e:HEV ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ น่าใช้ น่าขับ ตอกย้ำความเป็นแบรนด์ที่น่าเชื่อถือและไว้วางใจได้

10 มีนาคม 2568

News Image

ฮอนด้า เผยโฉมโมเดลยนตรกรรมต้นแบบ “Honda 0 Saloon” และ “Honda 0 SUV” เป็นครั้งแรกในโลกที่งาน CES 2025 พร้อมเปิดตัว “ASIMO OS” ระบบปฏิบัติการรถยนต์ที่พัฒนาโดยฮอนด้า ซึ่งติดตั้งใน Honda 0 Series

8 มกราคม 2568

News and updates you
can't miss!

Back to top
Back to top