ฮอนด้าเชิญสื่อมวลชนทดสอบสมรรถนะ “ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่” บนเส้นทางที่สะท้อนทั้งความแรงและประหยัดน้ำมัน กับ 2 ขุมพลังทางเลือก ระบบฟูลไฮบริด e:HEV และ VTEC TURBO มั่นใจทุกเส้นทางด้วย Honda SENSING ในทุกรุ่นย่อย ครบครันด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายและความปลอดภัยระดับพรีเมียม

10 กรกฎาคม 2566

News Image
บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เชิญสื่อมวลชนทดสอบสมรรถนะ “ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่” ซิตี้คาร์ยอดนิยม บนเส้นทางที่สะท้อนทั้งความแรงและประหยัดน้ำมัน จากกรุงเทพฯ สู่จังหวัดสิงห์บุรี รวมระยะทางกว่า 260 กิโลเมตร สัมผัสความโดดเด่นของดีไซน์ใหม่รอบคัน ที่ยกระดับความสปอร์ตไปอีกขั้น ด้วยกระจังหน้า กันชนหน้า กันชนหลัง และล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ สัมผัสประสบการณ์ความสะดวกสบายตลอดการเดินทางด้วยห้องโดยสารที่กว้างขวาง โปร่ง โล่งสบาย พร้อมภายในสีใหม่ เพิ่มความสปอร์ตพรีเมียมยิ่งขึ้น มาพร้อมเทคโนโลยีความสะดวกสบายอันล้ำสมัย* ใช้งานง่าย ด้วย 2 ขุมพลังทางเลือก ไม่ว่าจะเป็น ขุมพลังฟูลไฮบริด e:HEV ที่ผสานการทำงานอันทรงพลังร่วมกันของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว กับเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ที่มีประสิทธิภาพสูง มอบสมรรถนะการขับขี่ที่เกินคลาส กับแรงบิดมอเตอร์สูงสุด 253 นิวตัน-เมตรตั้งแต่ออกตัว และให้อัตราการประหยัดน้ำมันดีเยี่ยม 27.8 กิโลเมตร/ลิตร และขุมพลัง VTEC TURBO เครื่องยนต์ขนาด 1.0 ลิตร มอบกำลังสูงสุด 122 แรงม้า ลงตัวและตอบโจทย์ทุกการขับขี่ ด้วยความแรง เร้าใจ เร่งแซงได้ทันใจในทุกย่านความเร็ว และประหยัดน้ำมันสูงถึง 23.8 กิโลเมตร/ลิตร มั่นใจทุกการขับขี่กับเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) ที่ติดตั้งในทุกรุ่นย่อย ที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกสบายในการขับขี่ และเทคโนโลยีเพื่อความสะดวกสบายและความปลอดภัยอื่น ๆ* อาทิ หน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย เชื่อมต่อง่ายในไม่กี่ขั้นตอน ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมท และระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนยุคใหม่อย่างลงตัว โดยให้คุณเป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้นด้วยข้อเสนอพิเศษ ดอกเบี้ย 2.09%** พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี** และเฉพาะรุ่น e:HEV เพิ่มการรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริดเป็น 10 ปี และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง** เมื่อจองและรับรถตั้งแต่ 5 กรกฎาคม 2566 – 30 กันยายน 2566** ลูกค้าที่สนใจสามารถสัมผัสและทดลองขับ “ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่” ได้ที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 5 กรกฎาคม 2566 เป็นต้นไป
 
ทางฮอนด้าได้จัดเตรียมเส้นทางการทดสอบเพื่อให้ทุกท่านได้สัมผัสกับสมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลัง อัตราเร่ง แรง เร้าใจของทั้ง รุ่น e:HEV และรุ่น TURBO เพื่อให้สื่อมวลชนได้สัมผัสประสบการณ์การขับขี่และสัมผัสการตอบสนองของทั้ง 2 ขุมพลังอย่างเต็มที่ พร้อมทดสอบการทำงานที่แม่นยำของ Honda SENSING อีกทั้งได้ทดลอง
ใช้งานจริงทั้งในแง่ของการขับขี่ ฟังก์ชันและเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่ติดตั้งมาใน ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ อีกด้วย
 
ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ ที่สุดของยนตรกรรมซิตี้คาร์ ที่จะทำให้ทุกวันของคุณสมบูรณ์แบบ

มาพร้อมคุณค่าที่ยกระดับซิตี้คาร์ไปอีกขั้น กับ 2 ขุมพลังทางเลือก เพื่อตอบโจทย์การขับขี่ที่ลงตัวกับทุกไลฟ์สไตล์
อีกทั้งยังขับสนุกและประหยัดน้ำมัน ที่มาพร้อม Honda SENSING ในทุกรุ่นย่อย เพิ่มเติมฟังก์ชันใหม่ ด้วยระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (with Low-Speed Follow: with LSF) มีเฉพาะในรุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS ครบครันด้วยความปลอดภัย อาทิ ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch)* ระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock)* ถุงลม 6 ตำแหน่ง* กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ (Multi-Angle Rearview Camera) และไฟเตือนเบาะนั่งด้านหลัง (Rear Seat Reminder) เป็นต้น โดดเด่นด้วยดีไซน์ภายนอกที่สปอร์ตพรีเมียมรอบคัน เช่น กันชนหน้า กันชนหลัง สเกิร์ตข้าง สปอยเลอร์หลัง และกระจังหน้าสไตล์สปอร์ตแบบ RS* ดีไซน์ภายในกว้างขวาง โปร่งโล่ง เสริมลุคสปอร์ตพรีเมียมใหม่กับเส้นสายสีแดงภายใน มาพร้อมระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สายที่เชื่อมต่อง่ายในไม่กี่ขั้นตอน  ระบบปรับอากาศอัตโนมัติพร้อมช่องปรับอากาศตอนหลัง ช่องเชื่อมต่อ USB ด้านหลังแบบ Type-C 2 ตำแหน่ง ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมท (Remote Engine Start)
ประสบการณ์สุดเร้าใจและท้าทายทุกการขับขี่ ด้วย 2 ขุมพลังการขับเคลื่อน
  • ขุมพลังฟูลไฮบริด e:HEV ที่ผสานการทำงานอันทรงพลังร่วมกันของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว กับเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร Atkinson Cycle DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และ แบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน มอบแรงบิดมอเตอร์สูงสุดที่ 253 นิวตัน-เมตร ที่ 0 – 3,000 รอบต่อนาที และยังให้อัตราการประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมถึง 27.8 กิโลเมตร/ลิตร มีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 83 กรัม/กิโลเมตร รองรับพลังงานทางเลือก E20 ทั้งนี้ ระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV จะปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ให้โดยอัตโนมัติตามความเหมาะสม ประกอบด้วย 3 โหมด ได้แก่ โหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode) โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด (Hybrid Drive Mode) และโหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ (Engine Drive Mode)
  • ขุมพลัง TURBO กับเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.0 ลิตร DOHC VTEC TURBO 3 สูบ 12 วาล์ว ที่มาพร้อม Turbo Charger มอบกำลังสูงสุด 122 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที ตอบสนองได้ทันใจด้วยแรงบิดสูงสุด 173 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 - 4,500 รอบต่อนาที ผสานการทำงานกับระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง (CVT) ให้อัตราเร่งและอัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยมสูงถึง 23.8 กิโลเมตร/ลิตร มีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ 99 กรัม/กิโลเมตร และสามารถรองรับพลังงานทางเลือก E20
News Image
มั่นใจในทุกการเดินทางด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ครบครัน
ทุกรุ่นย่อยมาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) ทำงานผ่านกล้องมุมมองกว้างด้านหน้า ช่วยตรวจจับรถยนต์ คนเดินถนน จักรยาน และจักรยานยนต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประกอบไปด้วย 6 ฟังก์ชันการทำงานหลัก ๆ ดังนี้
  • ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS)
  • ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning: RDM with LDW)
  • ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB)
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (Adaptive Cruise Control: ACC) (รุ่น V, SV และ RS)
    พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (with Low-Speed Follow: with LSF)(รุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS)
  • ใหม่ ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN)
ลุคใหม่ กับความสปอร์ตพรีเมียมรอบคัน
ภายนอก โดดเด่นเหนือระดับในทุกรายละเอียด
  • กันชนหน้าและกันชนหลังดีไซน์ใหม่
  • กระจังหน้าโครเมียม
  • ไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED และไฟท้ายแบบ LED
  • ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ
  • มือจับประตูด้านนอกโครเมียม (รุ่น SV และ e:HEV SV)
  • กระจกมองข้างปรับและพับไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยวในตัว
  • ฝาครอบกระจกมองข้างสีเดียวกับตัวรถ
  • เสาอากาศแบบครีบฉลามสีเดียวกับตัวรถ
  • ล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้ว (รุ่น V) แบบทูโทน (รุ่น SV) และแบบทูโทนขนาด 16 นิ้ว (รุ่น e:HEV SV)
เสริมความสปอร์ตรอบคันยิ่งขึ้นและโฉบเฉี่ยวในทุกมุมมอง กับรุ่น RS และ รุ่น e:HEV RS
  • กระจังหน้าสีดำเงาดีไซน์ใหม่ เสริมความสปอร์ตแบบ RS
  • กันชนหน้า กันชนหลัง สเกิร์ตข้าง ดีไซน์ใหม่ เสริมความสปอร์ตแบบ RS
  • สปอยเลอร์หลังดีไซน์สปอร์ตแบบ RS
  • ไฟหน้าแบบ LED พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED และไฟท้ายแบบ LED
  • มือจับประตูด้านนอกสีเดียวกับตัวรถ  (รุ่น RS และ e:HEV RS)
  • ไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED
  • ฝาครอบกระจกมองข้างสีดำเงา
  • ระบบปัดน้ำฝนแบบหน่วงเวลาพร้อมระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ (รุ่น e:HEV RS)
  • เสาอากาศแบบครีบฉลามสีดำเงา
  • ล้ออัลลอยแบบทูโทนสไตล์สปอร์ตขนาด 16 นิ้ว
News Image
สะดวกสบายไปอีกขั้น กับห้องโดยสารที่กว้างขวาง โปร่ง โล่งสบาย
ภายใน
  • วัสดุตกแต่งคอนโซลหน้าสีเงิน (เฉพาะรุ่น V) และสีดำ Piano Black (เฉพาะรุ่น SV และ e:HEV SV)
  • วัสดุหุ้มเบาะผ้า (เฉพาะรุ่น V) และวัสดุหุ้มเบาะหนังแท้และหนังสังเคราะห์สีดำ (เฉพาะรุ่น SV และ e:HEV SV)
  • มือจับเปิดประตูด้านในตกแต่งโครเมียม
ยกระดับความสปอร์ตพรีเมียมยิ่งขึ้นกับรุ่น RS และรุ่น e:HEV RS
  • วัสดุตกแต่งคอนโซลหน้าสีแดงเมทัลลิก
  • วัสดุหุ้มเบาะหนังแท้และหนังสังเคราะห์สีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดง
ครบครันด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์* อาทิ
  • มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว (รุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS)
  • ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ  Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย (รุ่น SV, RS, e:HEV SV และ e:HEV RS)
  • ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย Bluetooth
  • พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชัน พร้อมปุ่มควบคุมระบบเครื่องเสียงและปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์
  • พวงมาลัยปรับระดับ 4 ทิศทาง
  • ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Paddle Shift) (รุ่น RS และ e:HEV RS)
  • ระบบช่วยชะลอความเร็วรถที่พวงมาลัย (Deceleration Paddle Selectors) (รุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS)
  • ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมช่องปรับอากาศตอนหลัง (รุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS)
  • ปุ่ม ECON
  • ช่องเชื่อมต่อ USB ด้านหน้า 2 ตำแหน่ง ด้านหลังแบบ Type-C 2 ตำแหน่ง (รุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS)
  • ลำโพง 8 ตำแหน่ง (รุ่น RS และ e:HEV RS)
  • กระจกมองหลังแบบตัดแสง
  • แผงบังแดดคู่หน้าพร้อมกระจกแต่งหน้าแบบมีฝาปิดด้านคนขับและผู้โดยสารด้านหน้า (รุ่น RS และ e:HEV RS)
  • ไฟอ่านแผนที่และไฟส่องสว่างภายในห้องโดยสาร
  • ไฟส่องสว่างห้องสัมภาระท้าย
  • พนักเท้าแขนด้านหน้า
  • พนักเท้าแขนด้านหลังพร้อมที่วางแก้ว (รุ่น RS และ e:HEV RS)
  • ช่องเก็บของหลังเบาะนั่งคนขับและหลังเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้า พร้อมช่องเก็บของขนาดเล็ก (รุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS)
  • ระบบเชื่อมต่อ Honda CONNECT (รุ่น RS และ e:HEV RS)
  • ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์แบบอัจฉริยะ (One Push Ignition System)
  • ระบบควบคุมประตูแบบอัจฉริยะ (Honda Smart Key System)
     
พร้อมด้วยเทคโนโลยีและความปลอดภัยครบครัน* อาทิ
  • ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch) (รุ่น e:HEV RS)
  • กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ (Multi-Angle Rearview Camera) (รุ่น SV, RS, e:HEV SV และ e:HEV RS)
  • ระบบเบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake) (รุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS)
  • ระบบ Auto Brake Hold (รุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS)
  • ถุงลมคู่หน้า
  • ถุงลมด้านข้างคู่หน้า
  • ม่านถุงลมด้านข้าง (รุ่น RS และ e:HEV RS)
  • ระบบล็อกประตูรถอัตโนมัติ (Auto Door Lock by Speed)
  • ระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock)
  • ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมท (Remote Engine Start)
  • ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารด้านหน้า
  • ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) พร้อมระบบกระจายแรงเบรก (EBD)
  • เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงกลับอัตโนมัติ
  • เข็มขัดนิรภัยด้านหน้าและหลังแบบ 3 จุด 2 ตำแหน่ง
  • ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer พร้อมระบบสัญญาณกันขโมย
  • ไฟเตือนเบาะนั่งด้านหลัง (Rear Seat Reminder)
  • จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก (ISOFIX & Child Anchor)
  • ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (VSA)
  • ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HSA)
  • สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (ESS)
ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ มีให้เลือก 2 ขุมพลังขับเคลื่อน รวม 5 รุ่นย่อย แบ่งเป็น

ฮอนด้า ซิตี้ อี:เอชอีวี ใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด 2 รุ่นย่อย
รุ่น e:HEV RS            ราคา 839,000 บาท
รุ่น e:HEV SV            ราคา 769,000 บาท
ฮอนด้า ซิตี้ เทอร์โบ ใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่นย่อย
รุ่น RS                     ราคา 749,000 บาท
รุ่น SV                     ราคา 679,000 บาท
รุ่น V                       ราคา 629,000 บาท
สีภายนอกมีให้เลือกทั้งหมด 7 สี ได้แก่ สีน้ำเงินออบซิเดียน (มุก) (เฉพาะรุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS)
สีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก) (เฉพาะรุ่น RS และ e:HEV RS) สีขาวแพลทินัม (มุก) (เฉพาะรุ่น SV, RS, e:HEV SV, และ e:HEV RS) สีดำคริสตัล (มุก) สีเงินลูนาร์ (เมทัลลิก) สีเทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก) และสีขาวทาฟเฟต้า (เฉพาะรุ่น V)

โดยมาพร้อมข้อเสนอพิเศษ ดอกเบี้ย 2.09%** พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี** และเฉพาะรุ่น e:HEV เพิ่มการรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง** เมื่อจองและรับรถตั้งแต่ 5 กรกฎาคม 2566 – 30 กันยายน 2566**
 
ชุดอุปกรณ์ตกแต่ง
เสริมความพรีเมียมด้วยชุดอุปกรณ์ตกแต่งโมดูโล (Modulo) รอบคัน ที่มาพร้อมกับแนวคิด “More Stage Up Booster” โดยมีไอเท็มอุปกรณ์ตกแต่งให้เลือก เช่น ล้ออัลลอย ขนาด 16 นิ้ว* ราคา 15,600 บาท คิ้วตกแต่งซุ้มล้อด้านหน้า ราคา 1,700 บาท คิ้วบันไดสเตนเลส LED ราคา 4,400 บาท รวมทั้งอุปกรณ์เพิ่มอรรถประโยชน์ใช้สอย
ในห้องเก็บสัมภาระท้ายรถ เช่น กระบะใส่ของท้ายรถ สำหรับรุ่น TURBO ราคา 1,100 บาท, สำหรับรุ่น e:HEV ราคา 1,250 บาท นอกจากนี้ ยังมีให้เลือกในรูปแบบแพ็กเกจชุดแต่งรอบคัน  ได้แก่ Modulo Aero Package ราคา 15,500 บาท ประกอบด้วย สเกิร์ตหน้า แบบ 2 ชิ้น สเกิร์ตข้าง และสเกิร์ตหลัง แบบ 2 ชิ้น

ลูกค้าที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลจากที่ปรึกษาการขายได้ที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ หรือแชทกับที่ปรึกษาการขายทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ www.honda.co.th หรือติดต่อศูนย์บริการข้อมูลฮอนด้า 24 ชั่วโมง โทร 0 2341 7777 หรืออ่านรายละเอียดทาง www.honda.co.th/city โดยลูกค้าที่ลงทะเบียนและร่วมกิจกรรมทดลองขับผ่าน www.honda.co.th/testdrive ตั้งแต่วันที่ 5 กรกฎาคม 2566 ถึง 30 กันยายน 2566 จะได้รับฟรี ขวดน้ำพับได้ มูลค่า 250 บาท**
 
หมายเหตุ:
*อุปกรณ์มาตรฐานแตกต่างกันในแต่ละรุ่น
**เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกับที่ปรึกษาการขายโชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ
  • สีขาวแพลทินัม (มุก) เพิ่ม 10,000 บาท
  • สีน้ำเงินออบซิเดียน (มุก) และสีดำคริสตัล (มุก) เพิ่ม 6,000 บาท
  • ราคาล้ออัลลอย รวม 4 วง ไม่รวมราคายาง
  • ราคาอุปกรณ์ตกแต่งรวมค่าแรงติดตั้ง ไม่รวม VAT 7% ดูรายละเอียดอุปกรณ์ตกแต่งเพิ่มเติมได้ที่ https://hondaaccess.co.th/line-up/honda-city 

ข่าวอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

News Image

ฮอนด้า ผนึกกำลังดีลเลอร์ทั่วประเทศ ยกระดับความเป็นเลิศสู่ความสำเร็จที่ยั่งยืน เดินหน้าเสริมความแข็งแกร่งไลน์อัป xEV พร้อมลุยปั้นแบรนด์ ชูแนวคิดส่งมอบประสบการณ์ดีเยี่ยมในทุกทัชพอยต์ (Touchpoint) ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง

15 พฤษภาคม 2568

News Image

ฮอนด้าชวนแฟนสายสปอร์ตออกทริป “Honda One Make Race 2025 Exclusive Trip” ลงสนามจริงระดับโลกกับ “Honda Track Experience” พร้อมร่วม “Driving Clinic” เรียนรู้ทักษะการขับขี่จากมืออาชีพ ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ วันที่ 31 พ.ค – 1 มิ.ย. 68 สมัครด่วน ! จำนวนจำกัด ทาง LINE Honda Thailand Official Account ตั้งแต่วันที่ 29 เม.ย. – 11 พ.ค. 68

29 เมษายน 2568

อัปเดตข่าวสารใหม่ๆ
ที่คุณไม่ควรพลาด!

Back to top
Back to top