ถ้าพูดถึงรถ SUV ที่พรีเมียม หรูหรา พร้อมลุยได้เต็มที่ และยังคุ้มค่า เชื่อว่าหลายคนคงต้องนึกถึง 
Honda CR-V เป็นอันดับต้น ๆ เพราะไม่ว่าจะเป็นเรื่องดีไซน์ สมรรถนะ หรือความสะดวกสบาย Honda CR-V e:HEV คือรถที่พร้อมตอบโจทย์ทุกมิติของชีวิตคนเมืองและคนชอบเดินทางอย่างแท้จริง และยังมาพร้อมฟีเจอร์ใหม่จัดเต็ม พร้อมอัปเกรดฟังก์ชันการใช้งานเพิ่มเติม ตอบโจทย์ได้ทุกไลฟ์สไตล์

และในปีนี้ ฮอนด้าเปิดตัว CR-V ตัวใหม่ พร้อมแนะนำเกรดใหม่ที่เติมเต็มได้ทุกไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะขับในเมืองหรือเดินทางไกล ก็มั่นใจได้ในสมรรถนะและความสะดวกสบายที่ครบครัน โดยเราได้รวบรวมไฮไลต์ของแต่ละรุ่นย่อยพร้อมราคาเปิดตัวล่าสุด มาให้คุณเลือกรุ่นที่สะท้อนตัวตนและตอบโจทย์การใช้งานได้ง่ายขึ้น

รถฮอนด้าCR-V รุ่นใหม่ล่าสุดราคาเท่าไหร่ มีรุ่นอะไรบ้าง ?

ฮอนด้า CR-V ตัวใหม่ปี 2025 มาพร้อมกับตัวเลือกหลากหลาย เหมาะทั้งคนที่เน้นพรีเมียมและคนที่อยากได้ฟังก์ชันครบ ๆ ในราคาคุ้มค่า ได้แก่

*ราคาดังกล่าวยังไม่รวมค่าทำสี

สำหรับใครที่อยากรู้ว่า รถ CR-V รุ่นใหม่ล่าสุด มีอะไรใหม่น่าสนใจบ้าง บทความนี้จะพาไปเปิดทุกจุดเด่นที่ไม่ควรพลาด

ไฮไลต์ Honda CRV 2025 ใหม่

ฮอนด้าจัดเต็ม! เพิ่มหลายออปชันที่ช่วยทำให้ชีวิตง่ายขึ้น

ใหม่! ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง (Blind Spot Information - BSI) และระบบเตือนเมื่อมีรถเคลื่อนผ่านขณะถอย (Cross Traffic Monitor - CTM) ในทุกรุ่นย่อย

เพิ่มความมั่นใจระหว่างการเดินทางมากขึ้น ทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนเลน จะมีการแจ้งเตือนด้วยระบบเตือนมุมอับสายตา (BSI) ที่กระจกมองข้างทั้งด้านซ้ายและขวา และระบบเตือนเมื่อรถเคลื่อนผ่านขณะถอย (CTM) ที่แสดงผลแจ้งบนจอภาพ จึงเหมือนเรามีผู้ช่วยส่วนตัวคอยมองรอบคันให้ตลอดเวลา

ใหม่! แอปและบริการของ Google ที่ติดตั้งมาในตัวให้ครบในทุกรุ่นย่อย

อัปเกรดความสะดวกสบายมากขึ้น ให้ทุกการเชื่อมต่อเป็นเรื่องที่ง่ายๆ เพราะ CR-V ตัวใหม่ มาพร้อม Google Built-in เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่นย่อย ให้คุณเข้าถึงแอปโปรดได้โดยไม่ต้องเชื่อมต่อสมาร์ตโฟน พร้อมฟังก์ชันอัจฉริยะที่ช่วยจัดการชีวิตได้ง่ายแค่ปลายนิ้วสัมผัสและคำสั่งเสียง

• สั่งการระบบแอร์และเครื่องเสียง: อยากเย็นฉ่ำหรืออยากฟังเพลงไหน แค่พูดสั่ง Google Assistant ก็ปรับอุณหภูมิหรือเปลี่ยนเพลงได้ทันที โดยไม่ต้องปล่อยมือจากพวงมาลัย
• เชื่อมต่อ Smart Home: ล้ำกว่าด้วยการสั่งงานอุปกรณ์ที่บ้านจากในรถ หากที่บ้านใช้ระบบ Google Smart Home ก็สามารถ สั่งเปิดไฟ หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ รอไว้ได้เลยก่อนถึงบ้าน

ใหม่! ครั้งแรกในรถยนต์ฮอนด้าประเทศไทย กับ เบาะนั่งคู่หน้าแบบระบายอากาศ ตั้งแต่รุ่น e:HEV ES

เทคโนโลยีที่ช่วยถ่ายเทความร้อนออกจากเบาะอย่างรวดเร็ว ให้คุณรู้สึกผ่อนคลายสบายตัวแม้ต้องขับทางไกลในวันอันร้อนระอุ

เพิ่ม! ระบบเครื่องเสียงพร้อมลำโพง BOSE 12 ตำแหน่ง ให้ตั้งแต่รุ่น e:HEV ES

มอบมิติเสียงคมชัดสมจริงรอบคัน ช่วยเปลี่ยนบรรยากาศรถติดหรือทางไกลให้ผ่อนคลาย เหมือนมีโรงหนังส่วนตัวเคลื่อนที่ไปในทุกเส้นทาง

สวิตซ์โหมดการขับขี่ (Drive Mode Switch) ที่มาพร้อมโหมดการขับขี่ที่ปรับได้ 4 รูปแบบ ในทุกรุ่นย่อย 

ที่ให้คุณปรับบุคลิกการขับขี่ของรถได้ตามใจ ตั้งแต่การตอบสนองของคันเร่ง พวงมาลัย ไปจนถึงระบบปรับอากาศ ทุกครั้งที่เหยียบคันเร่งจึงให้ความรู้สึกเฉพาะตัว เพราะ Honda เข้าใจดี ว่าทุกคนมีสไตล์การขับรถเป็นของตัวเองที่แตกต่างกัน ซึ่งเรามีให้เลือกถึง 4 โหมด คือ โหมดการขับขี่ใหม่! แบบ Individual โหมดการขับขี่แบบสปอร์ต โหมดการขับขี่แบบปกติ และ โหมดการขับขี่แบบประหยัด

เพิ่ม! ระบบเชื่อมต่อ Honda CONNECT พร้อมเทคโนโลยี Digital Key เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่นย่อย

อีกขั้นของความอุ่นใจที่มากับเทคโนโลยี Honda CONNECT ให้คุณตรวจสอบสถานะรถผ่านสมาร์ตโฟนได้แบบเรียลไทม์ เช่น รถพร้อมใช้งานไหม รถล็อกหรือยัง สั่งสตาร์ตล่วงหน้า เปิดแอร์ก่อนขึ้นรถ ติดตามตำแหน่งหากลืมจอดไว้ที่ไหน พฤติกรรมการขับขี่ของเรา รวมถึงการแจ้งเตือนงานบริการหลังการขายต่าง ๆ ทั้งหมดนี้เพื่อให้คุณเชื่อมต่อกับรถได้ตลอดเวลา

เพิ่ม! เซนเซอร์กะระยะหน้า 4 จุด และ หลัง 4 จุด เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่นย่อย ทำให้การถอยจอดมั่นใจมากขึ้น

ตัวช่วยให้การจอดรถเป็นเรื่องง่าย...สบายใจหายห่วง! ช่วยให้คุณกะระยะถอยเข้าซองหรือขับผ่านที่แคบได้แม่นยำ มีความมั่นใจมากขึ้น หมดกังวลไปได้เลย

เพิ่มขนาดมาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ให้ใหญ่ขึ้นเป็น 10.2 นิ้วในทุกรุ่นย่อย

ช่วยให้อ่านค่าข้อมูลการขับขี่ต่าง ๆ ได้ง่ายและสบายตา ไม่ว่าจะเป็นสถานะเพลง สถานะการจ่ายและชาร์จไฟของระบบไฮบริด ระบบความปลอดภัย รวมถึงข้อมูลอื่น ๆ ก็แสดงผลแบบดิจิทัลเต็มรูปแบบ ให้ความรู้สึกล้ำสมัยและใช้งานสะดวกสบาย

มั่นใจด้วยระบบความปลอดภัยที่แม่นยำ ใช้งานง่าย ด้วย Honda SENSING ที่มีในทุกรุ่นย่อย โดยมีฟังก์ชันการทำงานหลัก ๆ ได้แก่

• ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)
• ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS)
• ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้า
  ที่ความเร็วต่ำ (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow: ACC with LSF)
• ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning: RDM with LDW)
• ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (LCDN)
• ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB) และระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ* (Adaptive Driving Beam: ADB) (*เฉพาะรุ่น e:HEV RS และ e:HEV RS 4WD)

ยกระดับความอุ่นใจด้วยเทคโนโลยีการขับขี่อื่น ๆ** เช่น

• ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง (Multi-view Camera System: MVCS) (ยกเว้นรุ่น e:HEV E)
• ไฟส่องสว่างด้านข้างอัตโนมัติขณะเลี้ยว (Active Cornering Light: ACL) (เฉพาะรุ่น e:HEV RS และ e:HEV RS 4WD)
• ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (Hill Descent Control: HDC)
• ระบบเบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake) และระบบ Auto Brake Hold
• ระบบช่วยชะลอความเร็วรถที่พวงมาลัย (Deceleration Paddle Selectors)

**อุปกรณ์มาตรฐานแตกต่างกันในแต่ละรุ่น

สมรรถนะการขับขี่โดดเด่น ทั้งแรงและประหยัด ด้วยขุมพลังฟูลไฮบริด e:HEV ในทุกรุ่นย่อย

รถ CR-V รุ่นใหม่ล่าสุด ปรับไลน์อัปเป็นฟูลไฮบริด e:HEV ในทุกรุ่นย่อย แรง เร้าใจ ขับสมูทในทุกอัตราเร่ง มั่นใจได้ว่าเร่งแรงได้ดั่งใจ และประหยัดน้ำมันขับในเมืองก็สบาย ขับขึ้นเขาหรือออกทริปต่างจังหวัดก็มั่นใจทุกสภาพถนน ด้วยพลังขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV จากขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้าขนาดใหญ่ 2 ตัว ให้แรงบิดสูงสุด 335 นิวตัน-เมตร แบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนที่มีประสิทธิภาพสูง ผสานการทำงานกับเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร Direct injection เปิดประสบการณ์ขับขี่ที่ทรงพลัง ตอบสนองดั่งใจ มอบอัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยมสูงสุดถึง 19.6 กม./ลิตร*** (รุ่น e:HEV RS) และ 18.5 กม./ลิตร*** (รุ่น e:HEV RS 4WD) ทั้งยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำ เพื่อโลกที่ดีกว่าในอนาคต

สีภายนอก มีให้เลือกทั้งหมด 6 สี ได้แก่

• สีใหม่! สีเทาเออร์เบิน (มุก) (เฉพาะรุ่น e:HEV RS และ e:HEV RS 4WD)
• สีน้ำเงินแคนยอนริเวอร์ (เมทัลลิก) (ทุกรุ่นย่อย ยกเว้นรุ่น e:HEV HuNT)
• สีขาวแพลทินัม (มุก) (ทุกรุ่นย่อย ยกเว้นรุ่น e:HEV HuNT)
• สีเงินลูนาร์ (เมทัลลิก) (ทุกรุ่นย่อย ยกเว้นรุ่น e:HEV HuNT)
• สีเทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก)
• สีดำคริสตัล (มุก)

สรุป...ทำไม Honda CR-V ตัวใหม่ ถึงเป็น SUV ที่ "ใช่" สำหรับคุณ?

ฮอนด้ายกระดับรถ CR-V รุ่นใหม่ล่าสุด ให้เป็นมากกว่ารถ SUV ทั่วไป ด้วยการยกระดับมาตรฐานความสมบูรณ์แบบในทุกด้าน ที่ให้ทั้งความแรงและความประหยัดจากระบบฟูลไฮบริด e:HEV ดีไซน์สวย สปอร์ตพรีเมียมที่สะท้อนความแกร่งรอบคัน ให้ฟังก์ชันความสะดวกสบายครบครันและใช้งานได้จริงตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น เทคโนโลยีการเชื่อมต่อที่รู้ใจคนยุคดิจิทัล มั่นใจอีกขั้นด้วยระบบ Advance Safety ที่ติดตั้งให้เป็นมาตรฐานครบทุกรุ่น ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่ชอบเที่ยวออกไปลุยและครอบครัวยุคใหม่ที่ใช้งานทุกวันได้ลงตัว

• แรงและประหยัดจริง: ขับสนุกได้ดั่งใจด้วยระบบฟูลไฮบริด e:HEV ที่ให้คุณมั่นใจทั้งการขับขี่ในเมืองและเดินทางไกล
• เทคโนโลยีที่รู้ใจ: อัดแน่นด้วยฟังก์ชันเชื่อมต่ออัจฉริยะ ให้ไลฟ์สไตล์ยุคดิจิทัลของคุณลื่นไหล ไม่มีสะดุด
• ห้องโดยสารระดับพรีเมียม: กว้างขวาง นั่งสบาย และใส่ใจในทุกรายละเอียด เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของทุกคนในครอบครัว
• ดีไซน์หรู แกร่ง มีสไตล์: โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ใหม่ที่สะท้อนตัวตนที่แตกต่างและเหนือกว่า SUV ทั่วไป
• คันเดียวจบ...ครบทุกโจทย์: ไม่ว่าจะเป็นวัยรุ่นสร้างตัวที่รักความเท่ หรือหัวหน้าครอบครัวที่มองหารถคู่ใจ คันนี้ "เอาอยู่" ทุกช่วงเวลาของชีวิต

ถ้าคุณกำลังหารถครอบครัวที่ตอบโจทย์ทั้งดีไซน์ ความสะดวก และเทคโนโลยีล้ำ ๆ บอกเลยว่า Honda CR-V ตัวใหม่ปี 2025 คือคำตอบที่คุณกำลังมองหาอย่างแน่นอน

ต้องมาลองสัมผัส Honda CR-V รุ่นใหม่ด้วยตัวเอง แล้วคุณจะเข้าใจว่าทำไมใคร ๆ ก็เลือก “Honda CR-V e:HEV”

สัมผัสและทดสอบสมรรถนะ Honda CR-V รุ่นใหม่ คันจริงได้แล้วที่โชว์รูมฮอนด้าใกล้บ้านคุณ ลงทะเบียนเพื่อนัดหมายล่วงหน้าได้ ที่นี่

***ทดสอบตามมาตรฐาน UN R101 ในห้องปฏิบัติการ / ผ่านการรับรองมาตรฐานมลพิษระดับ Euro 6 (มอก. 3017-2563) อัตราประหยัดน้ำมันขึ้นอยู่กับสภาพการใช้งานจริงและพฤติกรรมการขับขี่ของแต่ละบุคคล