ฮอนด้า พาสื่อมวลชนร่วมทดสอบสมรรถนะ “ฮอนด้า แอคคอร์ด อี:เอชอีวี ใหม่” สัมผัสความแรง ประหยัด ของระบบขับเคลื่อน e:HEV อันชาญฉลาด และมั่นใจตลอดเส้นทางด้วย Honda SENSING ในทุกรุ่นย่อย บนเส้นทางจากภูเก็ต-พังงา-กระบี่ รวมระยะทางกว่า 268 กิโลเมตร
6 พฤศจิกายน 2566
(ภูเก็ต – 6 พฤศจิกายน 2566) บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เชิญสื่อมวลชนทดสอบสมรรถนะ “ฮอนด้า แอคคอร์ด อี:เอชอีวี ใหม่” สปอร์ตพรีเมียมแฟลกชิปซีดานที่ได้รับการพัฒนาเพื่อส่งมอบคุณค่าใหม่อีกขั้น มาพร้อมขุมพลังระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV ในทุกรุ่นย่อย ที่ทรงพลัง ตอบสนองทันใจด้วยการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูง 2 ตัว ในระบบเกียร์ E-CVT ที่ให้แรงบิดสูงสุด 335 นิวตัน-เมตร และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนที่มีประสิทธิภาพสูง ผสานการทำงานกับเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร Direct Injection ที่ได้รับการพัฒนาใหม่ มอบพลังการขับเคลื่อนที่ไร้กังวลในทุกเส้นทาง โดยระบบสามารถปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ได้อย่างชาญฉลาด และประหยัดน้ำมันดีเยี่ยม มั่นใจตลอดการเดินทางด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ในทุกรุ่นย่อย พร้อมด้วยเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกสบายและหลากหลายเทคโนโลยีเชื่อมต่ออันล้ำสมัยที่รองรับสมาร์ตไลฟ์สไตล์ บนเส้นทางสายใต้จากจังหวัดภูเก็ต ผ่านทางจังหวัดพังงา และมุ่งหน้าสู่จังหวัดกระบี่ รวมระยะทางไป-กลับกว่า 268 กิโลเมตร
โดยก่อนเริ่มกิจกรรมการทดสอบสมรรถนะ ฮอนด้า แอคคอร์ด อี:เอชอีวี ใหม่ คณะสื่อมวลชนจะได้รับฟังข้อมูลจุดเด่นของผลิตภัณฑ์และแนวคิดการพัฒนา รวมถึงวิธีใช้งานฟังก์ชันการใช้งานบนเส้นทางจริง จากทีมวิศวกรผู้พัฒนา ฮอนด้า แอคคอร์ด อี:เอชอีวี ใหม่ โดยจะได้สัมผัสกับดีไซน์ภายนอกที่สปอร์ตโดดเด่น หรูหราสง่างาม แต่ยังสะท้อนสมรรถนะการขับขี่ที่ดี ส่งผลให้ดีไซน์โดยรวมสปอร์ตโฉบเฉี่ยว ดึงดูดทุกสายตาด้วยกระจังหน้าดีไซน์สปอร์ตใหม่ ไฟหน้าและไฟท้ายแบบ LED และไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED ที่ได้รับการออกแบบให้เข้ากันอย่างลงตัว มาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว สีเงิน (รุ่น e:HEV E) ขนาด 18 นิ้ว ดีไซน์สปอร์ตสีดำ (รุ่น e:HEV EL) และขนาด 18 นิ้ว ดีไซน์สปอร์ตสีดำแบบแมตต์ (รุ่น e:HEV RS) ครั้งแรกในโลกกับรุ่น e:HEV RS ที่ยกระดับความสปอร์ตหรูหราอีกขั้น ในดีไซน์เอกซ์คลูซีฟรอบคัน ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง พร้อมส่งมอบประสบการณ์สุดเอกซ์คลูซีฟ ครบครันด้วยฟังก์ชันการใช้งานที่สะดวกสบาย
ที่รองรับไลฟ์สไตล์การใช้งานที่หลากหลายได้อย่างลงตัว ที่ฮอนด้าได้ติดตั้งเป็นครั้งแรก* ใน แอคคอร์ด อี:เอชอีวี ใหม่ อาทิ ปุ่ม Experience Selection Dial ที่เลือกปรับได้อย่างง่ายดาย Google built-in ที่มาพร้อมแอปและ
บริการของ Google ไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสารแบบปรับเฉดสีได้ (Multi-color Ambient Light) ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง ระบบเครื่องเสียงพร้อมลำโพง BOSE 12 ตำแหน่ง ระบบแสดงข้อมูลบนกระจกหน้า (Head-up Display: HUD) ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย และรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 10.2 นิ้ว เป็นต้น
ที่รองรับไลฟ์สไตล์การใช้งานที่หลากหลายได้อย่างลงตัว ที่ฮอนด้าได้ติดตั้งเป็นครั้งแรก* ใน แอคคอร์ด อี:เอชอีวี ใหม่ อาทิ ปุ่ม Experience Selection Dial ที่เลือกปรับได้อย่างง่ายดาย Google built-in ที่มาพร้อมแอปและ
บริการของ Google ไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสารแบบปรับเฉดสีได้ (Multi-color Ambient Light) ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง ระบบเครื่องเสียงพร้อมลำโพง BOSE 12 ตำแหน่ง ระบบแสดงข้อมูลบนกระจกหน้า (Head-up Display: HUD) ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย และรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 10.2 นิ้ว เป็นต้น
ตลอดเส้นทางการทดสอบสมรรถนะที่รวมระยะทางกว่า 268 กิโลเมตร สื่อมวลชนจะได้สัมผัสกับระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV ที่ให้การตอบสนองที่ทันใจและทรงพลัง ด้วยการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูง 2 ตัว ในระบบเกียร์ E-CVT ได้แก่ มอเตอร์ที่ทำหน้าที่สร้างกระแสไฟฟ้า (Motor Generator) และมอเตอร์ที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนล้อ (Motor Drive) มอบแรงบิดสูงสุด 335 นิวตัน-เมตร และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนประสิทธิภาพสูง ผสานการทำงานกับเครื่องยนต์ใหม่ขนาด 2.0 ลิตร Direct Injection Atkinson-Cycle DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว โดยระบบจะมอบสมดุลระหว่างสมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลัง แรง ตอบสนองดั่งใจ มอบอัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยมสูงถึง 25 กม./ลิตร
อีกทั้งได้สัมผัสกับการปรับเปลี่ยนโหมดการทำงานให้เหมาะสมกับทุกสถานการณ์การขับขี่ได้อย่าง
ชาญฉลาด ระหว่างโหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode) โหมดการขับขี่แบบไฮบริด (Hybrid Drive Mode) และโหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ (Engine Drive Mode) นอกจากนี้ในขณะลดความเร็ว ระบบจะเปลี่ยนพลังงานที่เกิดขึ้นจากการลดความเร็วนั้นให้เป็นพลังงานไฟฟ้า และชาร์จกลับไปยังแบตเตอรี่ (Regeneration) รวมถึงสามารถเข้าถึงอารมณ์การขับขี่ด้วยไฟฟ้าอีกขั้นด้วยการกดสวิตช์ควบคุมโหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Switch) ที่ได้รับการพัฒนาโดยเพิ่ม Charge Mode เข้ามาเป็นครั้งแรกในแอคคอร์ด ซึ่งเป็นโหมดที่จะชาร์จแบตเตอรี่ ในขณะที่รถวิ่งด้วยน้ำมัน นอกจากนี้ยังสามารถเลือกโหมดการขับขี่ที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ ผ่านการกดสวิตช์ฟังก์ชัน Drive Mode ที่มาพร้อมโหมดการขับขี่แบบ Individual (Individual Mode) ใหม่ สามารถเลือกปรับเปลี่ยนการทำงานของระบบส่งกำลัง พวงมาลัย ระบบ Adaptive Cruise Control และสีของมาตรวัดได้อย่างอิสระดั่งใจ
อีกทั้งได้สัมผัสกับการปรับเปลี่ยนโหมดการทำงานให้เหมาะสมกับทุกสถานการณ์การขับขี่ได้อย่าง
ชาญฉลาด ระหว่างโหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode) โหมดการขับขี่แบบไฮบริด (Hybrid Drive Mode) และโหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ (Engine Drive Mode) นอกจากนี้ในขณะลดความเร็ว ระบบจะเปลี่ยนพลังงานที่เกิดขึ้นจากการลดความเร็วนั้นให้เป็นพลังงานไฟฟ้า และชาร์จกลับไปยังแบตเตอรี่ (Regeneration) รวมถึงสามารถเข้าถึงอารมณ์การขับขี่ด้วยไฟฟ้าอีกขั้นด้วยการกดสวิตช์ควบคุมโหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Switch) ที่ได้รับการพัฒนาโดยเพิ่ม Charge Mode เข้ามาเป็นครั้งแรกในแอคคอร์ด ซึ่งเป็นโหมดที่จะชาร์จแบตเตอรี่ ในขณะที่รถวิ่งด้วยน้ำมัน นอกจากนี้ยังสามารถเลือกโหมดการขับขี่ที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ ผ่านการกดสวิตช์ฟังก์ชัน Drive Mode ที่มาพร้อมโหมดการขับขี่แบบ Individual (Individual Mode) ใหม่ สามารถเลือกปรับเปลี่ยนการทำงานของระบบส่งกำลัง พวงมาลัย ระบบ Adaptive Cruise Control และสีของมาตรวัดได้อย่างอิสระดั่งใจ
อีกหนึ่งไฮไลต์ของกิจกรรม คือ สื่อมวลชนสามารถทดลองการใช้งาน Honda SENSING บนเส้นทางจริง ระบบจะผสานการทำงานของกล้องด้านหน้าและเรดาร์ ในการตรวจจับรถยนต์ รถจักรยานยนต์ จักรยาน และคนเดินถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีฟังก์ชันการทำงานหลัก ๆ ได้แก่
- ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS)
- ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning : RDM with LDW)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow: ACC with LSF)
- ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB) หรือ ใหม่ ครั้งแรกใน แอคคอร์ด กับระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ (Adaptive Driving Beam: ADB) (เฉพาะรุ่น e:HEV RS) ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในเวลากลางคืนและปรับองศาของแสงไฟเพื่อลดการรบกวนรถด้านหน้าและคนเดินถนน
- ใหม่ ครั้งแรกใน แอคคอร์ด กับ ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN)
พร้อมด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอันล้ำสมัยและเทคโนโลยีเพื่อการขับขี่อื่น ๆ* อาทิ ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง (Multi-view Camera System: MVCS) (รุ่น e:HEV EL และ e:HEV RS) เซ็นเซอร์กะระยะหน้า 4 จุด และ หลัง 4 จุด (รุ่น e:HEV EL และ e:HEV RS) ไฟส่องสว่างด้านข้างอัตโนมัติขณะเลี้ยว (Active Cornering Light: ACL) (เฉพาะรุ่น e:HEV RS) ใหม่ ระบบเพิ่มความเสถียรและความคล่องตัวในการขับขี่ (Motion Management System: MMS) ถุงลม 8 ตำแหน่ง ระบบช่วยชะลอความเร็วรถที่พวงมาลัย (Deceleration Paddle Selectors) ใหม่ ไฟเตือนเบาะนั่งด้านหลัง ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารด้านหน้า และใหม่ ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารด้านหลัง และระบบควบคุมเสียงรบกวนเข้าห้องโดยสาร (ANC) และ ใหม่ รุ่น e:HEV RS มาพร้อมเซนเซอร์ตรวจจับเสียงรบกวนจากพื้นถนน (Road noise ANC) เป็นต้น
สู่ประสบการณ์การเดินทางที่สมบูรณ์แบบเต็มขั้น กับครั้งแรกของหลากหลายเทคโนโลยีเพื่อความสะดวกสบายและเทคโนโลยีเชื่อมต่ออันล้ำสมัย รองรับสมาร์ตไลฟ์สไตล์ ที่ฮอนด้าได้ติดตั้งเป็นครั้งแรก* ใน แอคคอร์ด อี:เอชอีวี ใหม่ ที่สื่อมวลชนได้ร่วมสัมผัสและทดลองใช้จริงตลอดการเดินทาง อาทิ ปุ่ม Experience Selection Dial ที่เลือกปรับได้อย่างง่ายดาย Google built-in ที่มาพร้อมแอปและบริการของ Google ไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสารแบบปรับเฉดสีได้ (Multi-color Ambient Light) ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง ระบบเครื่องเสียงพร้อมลำโพง BOSE 12 ตำแหน่ง ระบบแสดงข้อมูลบนกระจกหน้า (Head-up Display: HUD) ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย และรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 10.2 นิ้ว ช่องเชื่อมต่อ USB Type C 4 ตำแหน่ง และใหม่ ครั้งแรกของรถยนต์ฮอนด้า กับฟังก์ชันการอัปเดตซอฟต์แวร์ Over-The-Air (OTA) ช่วยให้ผู้ใช้รถไม่เพียงสามารถอัปเดตระบบ Infotainment แต่ยังสามารถอัปเดตการทำงานของ ECU จากทางไกลได้ ผ่านทางระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว หรือผ่านทางแอปพลิเคชันในสมาร์ตโฟน เพิ่มความสะดวกสบายโดยที่ไม่ต้องเข้าไปยังศูนย์บริการ เป็นต้น
สู่ประสบการณ์การเดินทางที่สมบูรณ์แบบเต็มขั้น กับครั้งแรกของหลากหลายเทคโนโลยีเพื่อความสะดวกสบายและเทคโนโลยีเชื่อมต่ออันล้ำสมัย รองรับสมาร์ตไลฟ์สไตล์ ที่ฮอนด้าได้ติดตั้งเป็นครั้งแรก* ใน แอคคอร์ด อี:เอชอีวี ใหม่ ที่สื่อมวลชนได้ร่วมสัมผัสและทดลองใช้จริงตลอดการเดินทาง อาทิ ปุ่ม Experience Selection Dial ที่เลือกปรับได้อย่างง่ายดาย Google built-in ที่มาพร้อมแอปและบริการของ Google ไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสารแบบปรับเฉดสีได้ (Multi-color Ambient Light) ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง ระบบเครื่องเสียงพร้อมลำโพง BOSE 12 ตำแหน่ง ระบบแสดงข้อมูลบนกระจกหน้า (Head-up Display: HUD) ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย และรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 10.2 นิ้ว ช่องเชื่อมต่อ USB Type C 4 ตำแหน่ง และใหม่ ครั้งแรกของรถยนต์ฮอนด้า กับฟังก์ชันการอัปเดตซอฟต์แวร์ Over-The-Air (OTA) ช่วยให้ผู้ใช้รถไม่เพียงสามารถอัปเดตระบบ Infotainment แต่ยังสามารถอัปเดตการทำงานของ ECU จากทางไกลได้ ผ่านทางระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว หรือผ่านทางแอปพลิเคชันในสมาร์ตโฟน เพิ่มความสะดวกสบายโดยที่ไม่ต้องเข้าไปยังศูนย์บริการ เป็นต้น
ฮอนด้า แอคคอร์ด อี:เอชอีวี ใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่นย่อย ได้แก่
(เมทัลลิก) และสีดำคริสตัล (มุก) พร้อมภายในสีดำ และสีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดง (เฉพาะรุ่น e:HEV RS)
ข้อเสนอพิเศษ สำหรับลูกค้าที่สนใจเป็นเจ้าของ ฮอนด้า แอคคอร์ด อี:เอชอีวี ใหม่ เมื่อจองและรับรถยนต์ตั้งแต่วันที่ 17 ตุลาคม 2566 – 31 ธันวาคม 2566 รับข้อเสนอดอกเบี้ย 2.29%** พร้อมรับ Honda Exclusive Care (ฮอนด้า เอ็กซ์คลูซีฟ แคร์) ประกอบด้วย
หมายเหตุ:
*อุปกรณ์มาตรฐานแตกต่างกันในแต่ละรุ่น
**เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกับที่ปรึกษาการขายโชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ
- สำหรับสีขาวแพลทินัม (มุก) เพิ่ม 14,000 บาท และสีดำคริสตัล (มุก) เพิ่ม 10,000 บาท
- รุ่น e:HEV RS ราคา 1,799,000 บาท
- รุ่น e:HEV EL ราคา 1,669,000 บาท
- รุ่น e:HEV E ราคา 1,529,000 บาท
(เมทัลลิก) และสีดำคริสตัล (มุก) พร้อมภายในสีดำ และสีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดง (เฉพาะรุ่น e:HEV RS)
ข้อเสนอพิเศษ สำหรับลูกค้าที่สนใจเป็นเจ้าของ ฮอนด้า แอคคอร์ด อี:เอชอีวี ใหม่ เมื่อจองและรับรถยนต์ตั้งแต่วันที่ 17 ตุลาคม 2566 – 31 ธันวาคม 2566 รับข้อเสนอดอกเบี้ย 2.29%** พร้อมรับ Honda Exclusive Care (ฮอนด้า เอ็กซ์คลูซีฟ แคร์) ประกอบด้วย
- ฟรีประกันภัย 1 ปี
- ฟรีรับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริดถึง 10 ปี และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปี
ไม่จำกัดระยะทาง - ฟรีแพ็กเกจเช็กระยะ ค่าแรง ค่าอะไหล่ 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
- ฟรี Honda Ultimate Care (ฮอนด้า อัลติเมท แคร์) ขยายการรับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน 24 ชั่วโมงอีก 2 ปี หรือ 40,000 กิโลเมตร ต่อจากการรับประกันคุณภาพรถใหม่ 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร สิ้นสุด รวมเป็น 5 ปี หรือ 140,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
หมายเหตุ:
*อุปกรณ์มาตรฐานแตกต่างกันในแต่ละรุ่น
**เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกับที่ปรึกษาการขายโชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ
- สำหรับสีขาวแพลทินัม (มุก) เพิ่ม 14,000 บาท และสีดำคริสตัล (มุก) เพิ่ม 10,000 บาท
ข่าวอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
‘ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี ใหม่’ ไมเนอร์เชนจ์ คุ้มค่ายิ่งขึ้น ด้วยราคาพิเศษช่วงเปิดตัว เริ่มต้นเพียง 89X,XXX บาท เปิดจองสิทธิ์ ก่อนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ 28 พ.ย. 2567 ในงาน Motor Expo 2024 และที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ
3 ตุลาคม 2567
‘ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี ใหม่’ ไมเนอร์เชนจ์ เตรียมเปิดจองสิทธิ์และรับข้อเสนอพิเศษก่อนใคร วันที่ 10 ก.ย. 2567 พร้อมเปิดจำหน่ายอย่างเป็นทางการ 28 พ.ย. 2567 ในงาน Motor Expo 2024 และโชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ
10 กันยายน 2567
อัปเดตข่าวสารใหม่ๆ
ที่คุณไม่ควรพลาด!
รับข่าวสาร และโปรโมชันดีๆ
จากเราก่อนใคร